ชีวิตต้องสู้..!หาปลาขายชดเชยนาล่ม

วันที่ 9 ส.ค. 2554 ผู้สื่อข่าวได้รายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตอ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ว่าปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือนประชาน และไร่นาของเกษตรกรเสียหายนับหมื่นไร่ นายจงพล  รวยทรัพย์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 หมู่ 11 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ หนึ่งในเกษตรกรเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองพร้อมกับครอบครัวมีอาชีพทำนา ซึ่งตนเองทำนาไว้ทั้งหมด 70 ไร่ ซึ่งจะครบกำหนดสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไดในอีก 1 อาทิตย์  แต่ในปีนี้น้ำข้าท่วมพื้นที่นาของตนเองเร็วกว่าปกติ ซึ่งทุกปีน้ำจะเข้าท่วมในช่วยปลายเดือน สิงหาคน ถึงต้นเดือนกันยายน ซึ่งถ้าเป็นช่วงนั้นตนเองก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่าเต็มที่ ในตอนนี้เท่าที่ทำได้ ก็คือต้องไปลอยเรือและดำน้ำลงไปเกี่ยวข้าวซึ่งระดับน้ำในตอนนี้สูงขึ้นประมาณ 1.20 เซนติเมตรและระดับน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  จากการดำน้ำเกี่ยวข้าวก็พอได้มาบ้างหลังจากที่ได้มาก็ต้องนำข้าวมาตากแดดก่อนที่จะนำไปขายได้ราคาเกวียนละ  4-5 พันบาท ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

นายพลร่ม ปัญญาประสิทธิ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 หมู่ 1 ต.ชุมแสงสงคราม เปิดเผยว่า ตนเองทำนาร่วมกับแม่ของภรรยา จำนวน 70 ไร่ ซึ่งได้ถูกน้ำท่วมพื้นที่นาข้าวเหมือนกับเหมือนเพื่อนคนอื่น ก็ได้แต่ทำใจและต้องไปเกี่ยวข้าวในน้ำเอาเท่าที่ได้ ได้เงินมาเพียงเล็กน้อยดีกว่าไม่ได้อะไรเลย หลังจากที่น้ำท่วมก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยทำให้ครอบครัวขาดรายได้ ตนเองจึงได้นำลอบออกไปวางตามท้องนาที่น้ำท่วม เพื่อดำปลาตามธรรมชาติเมื่อได้มาถ้าเป้ฯปลาขนาดใหม่อย่างปลาช่อน ปลาดุก ก็ถือว่าโชคดีจะสามารถขายได้ราคากิโลกรัมละเกือบ 100 บาท ส่วนปลาสร้อยตัวเล็กๆก็จำนำมาตัดหัวขอดเกร็ดและค้าวเกลือจะขายได้กิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งแม่ค้าที่รับซื้อไปก็จะนำไปหมักทำปลาร้า ซึ่งรายได้ช่วงนี้ก้อยู่ที่วันละ 100-150 บาท ก็พอที่จะนำมาใช้จ่ายในครอบครัว

แสดงความคิดเห็น