ต.วังนกแอ่นต้านไทยฮั้วตั้งรง.ยางพาราส่งกลิ่นรบกวน

ประชาพิจารณ์รง.ยางพาราไทยฮั้ว

วันที่ 21สิงหาคม2554 ที่ธุดงค์สถานจังหวัดพิษณุโลก ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก องค์การบริหารส่วนตำบลวังนกแอ่น ร่วมกับบริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด(มหาชน) จัดทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (ประชาพิจารณ์) แก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตำบลวังนกแอ่น ซึงอยู่ใกล้เคียงกับการตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราเป็นยางแท่น ร่วมแสดงความคิดเห็นข้อดีและข้อเสีย
 

โดยให้เลือกคำตอบได้ 1 ข้อ คือ กาเครื่องหมายถูก ให้จัดตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราเป็นยางแท่ง หรือ กาเครื่องหมายถูก ไม่ให้จัดตั้งโรงงานแปรรูปยางพาราเป็นยางแท่ง เพราะว่า ขณะนี้ รง.ไทยฮั้ว เริ่มเปิดรับซื้อยางดิบ และส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงรบกวนประชาชน โดยมีประชาชนกว่า 500 คนรับฟังและเตรียมส่งคำตอบให้ช่วย 14.00-15.00 น.ของวันเดียวกัน หลังจากบริษัทไทยฮั้วได้เปิดข้อดีของโรงงานแปรรูปยางพารา
     

ประชาพิจารณ์รง.ยางพาราไทยฮั้ว

 

 

  ในที่ประชุมได้มีนายชัยยนต์ มาไชยนาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังนกแอ่น และนายพงศ์ชัย นิ่มเจริญวรรณ ผู้จัดการบริษัทไทยฮั้ว ยางพารา และนายสุรพล ฝันเชียร ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ซึ่งทำหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก
       

ทั้งนี้หนังสือจากสำนักอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก ที่ พล.0028(3)/ 706 ระบุว่า ด้วยบริษัทไทยฮั้วยางพารา จำกัด(มหาชน) ได้ยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตยางแท่ง เลขที่ 168 หมู่ 3 ตวังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลกต่ออุตสาหกรรมจังหวัด ได้พบว่า มีผู้คัดค้านการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผ่านอบต.วังนกแอ่น จำนวน 41 ฉบับ และ กรมรบพิเศษที่ 4 ค่ายสฤษดิ์เสนา
 ซึ่งตั้งอยู่หางโรงงาน 1 กิโลเมตรจำนวน 22 ฉบับ รวมมีผู้คัดค้าน 63 ฉบับหรือ 63 ราย มีประเด็น กลิ่นเหม็นรบกวน 49 เรื่อง การระบายน้ำทิ้งลงคลองสาธารณะและไหลลงน้ำเข็ก จำนวน 21 เรื่อง จึงเห็นควรให้บริษัทไทยฮั้ว ทำประชาพิจารณ์ร่วมกับอบต.วังนกแอ่น
       

นายพงศ์ชัย นิ่มเจริญวรรณ ผู้จัดการบริษัทไทยฮั้ว ยางพารา กล่าวในทีประชุมว่า ไทยฮั้วยางพาราเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางพาราใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีสาขา 12 สาขาบริษัทร่วมลงทุนผลิตถุงมือยางทางการแพทย์ ยางรถยนต์ และยังได้ลงทุนปลูกยางพาราในประเทศลาว มีพนักงาน 2,000 คนและมีกำลังส่งออกประมาณ 280,000 ตันตอไป ต้องการขยายกิจการตั้งโรงงานสาขาในพิษณุโลก เพื่อให้เกิดการจ้างงานและส่งเสริมอาชีพของชาวสวนยางให้มีตลาดรองรับ จึงขอความเห็นเพื่อขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน
       

ขณะที่เสียงคัดค้าน อาทิ จ.ส.อ.บุญฤทธิ์ แสนโพธิ์ รองผบ.มว.ยานยนต์ กรมรบพิเศษที่ 4 ค่าย 4 ค่ายสฤษดิ์เสนา เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนจากครอบครัวค่ายฯ 400 ครัวเรือนหรือประมาณ 800 คน ยืนยันว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่นยางพาราในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เพราะเป็นร่องลม หากดำเนินการก่อสร้างโรงงานได้ ก็ต้องฟ้องร้องศาลปกครองกันต่อไป เพราะชาวบ้านในหมู่ 2, 3, 7 และ 19
 ที่อยู่รอบๆ โรงงานก็ได้กลิ่นเหม็นเหมือนกัน อีกทั้งค่ายฯ ยังต้องใช้น้ำจากลำน้ำเข็กเพื่อการอุปโภคทั้งสิ้น ก็ทราบว่า คนหาปลาก็ได้รับผลกระทบจากผืนคั
       

ประชาพิจารณ์รง.ยางพาราไทยฮั้ว

 

 

จ.ส.อ.สมคิด แก้วดารา ราชการเกษียณ เปิดเผยว่า ผมขอคัดค้าน แม้ว่า ยางพาราจะสร้างรายได้แก่จังหวัด แต่จะต้องกำจัดกลิ่น เพื่อให้คนในชุมชนอยู่ได้
       

ขณะที่ชาวบ้นหมู่ 19 หลังวัดศรีพรหมจักร ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอคัดค้าน เพราะกลางคืน นอนไม่หลับเพราะกลิ่นเหม็น

ส่วนผลการประชาพิจารณ์นั้น มีผู้ไม่เห็นด้วยในการตั้งโรงงานไทยฮั้วจำนวน 468 ราย ผู้เห็นด้วยจำนวน 100 ราย บัตรเสีย 6 ราย ไม่ออกความคิดเห็น 16 ราย อย่างไรก็ตาม ในชวนการขออนุญาตจัดตั้งงานนั้น จะมีการทำประชาพิจารณ์อีกหลายรอบ  ส่วนการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ผู้สื่อข่าวจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

แสดงความคิดเห็น