ทลายกองกำลังวัยรุ่นซ่องสุมขายยาบ้าในป่า

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่  6 ม.ค. 55  ที่ห้องประชุมชั้นสอง สถานีตำรวจภูธร อ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผบก.จว.พิษณุโลก พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบ.ก. พ.ต.อ.สุนทร กมลพันธฤกษ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.มนตรี ชุติพงษ์วิเวท  รอง ผบก. พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.สภ.แก่งโสภา  ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งวัยรุ่นตั้งตัวเป็นกองกำลังย่อยๆในป่า จ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้าทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้จำนวน 7 คน ชื่อนายสมยศ  สุธงษา อายุ 22 ปี หัวหน้าแก๊ง อยู่บ้านเลขที่ 143/1 ม.23 ต.บ้านกลาง  นายณรงค์ศักดิ์ เทวะประดิษฐ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 356 ม.20 ต.บ้านกลาง  นายศุภชัย แดนกาใส อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276 ม.25 ต.บ้านกลาง นายสุธิชาติ มุ่งอุบล อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 412 ม.20 ต.บ้านกลาง นายพีระพันธ์ ระโส อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177/5 ม.3 ต.บ้านกลาง นายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 ม.23 ต.บ้านกลาง และนายน้ำ(นามสมมุติ) อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 363/1 ม.20 ต.บ้านกลาง ทั้งหมดอยู่ในเขต อ.วังทอง จ.พิษณุโลก  

ในการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ยึดของกลางทั้งหมดมียาบ้า จำนวน 2,540 เม็ด  เงินสด 23,540 บาท อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ไม่มีทะเบียน จำนวน 5 กระบอก อาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาดขนาด .38 จำนวน 20 นัด กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 34 นัด กระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 19 นัด โทรศัพท์มือถือจำนวน 14 เครื่อง อุปกรณ์การเสพยาบ้า มีดคัตเตอร์ 10 เล่ม  กรรไกร 1 เล่ม ไฟฉาย 9 อัน พร้อมถ่านไฟฉายสำรอง หลอกพลาสติกพันด้วยเทปกาวสีดำปิดหัวท้ายใช้บรรจุยาบ้า จำนวน 2 หลอด เทปพันสายไฟสีดำ จำนวน 3 ม้วน  ไฟแช็ค 10 อัน พร้อมอุปกรณ์ เปลสนาม และอุปกรณ์เดินป่า ยารักษาโรคจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก  ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า ที่ป่าช้าเก่าบ้านนาเหนือ หมู่ 19 ต.บ้านกลาง มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายคนมั่วสุมเสพ และขายยาบ้ากันมานาน โดยตั้งเป็นกองกำลังย่อยๆอยู่ในป่าไผ่ทึบ สร้างลักษณะเป็นอุโมงค์ลอดเข้าไปเป็นอานาจักรส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบ พบว่า ป่าช้าดังกล่าวมีลักษณะเป็นป่าไผ่ปกคลุมอยู่หนาแน่น และมีช่องทางลอดเข้าเพียงช่องทางเดียว โดยบริเวณตรงกลางมีลักษณะเป็นลานโล่ง กลุ่มผู้ต้องหาใช้เป็นที่พักแรม มีการแขวนเปลสนาม จำนวน 3 เปล มีร่องรอยการก่อกองไฟ  แลแกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกำลังมั่วสุมกันอยู่  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้บุกจับกุมไว้ได้ทั้งหมด โดยไม่มีการต่อสู้แต่อย่างใด

จากการสอบถามนายสมยศ  หัวหน้าแก๊ง ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นหัวหน้ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว โดยก่อตั้งมานานกว่า 1 ปี ส่วนมากจะเป็นเด็กวัยรุ่นในตำบลบ้านเดียวกัน และมีการค้ายาบ้าจริง โดยจะรับออเดอร์มาจากเรือนจำ  โดยจะมีการนัดไปเอายาบ้านตามหลักกิโลเมตร  จากนั้นจะนำยาบ้ามาขายให้กับลูกค้าอีกครั้ง โดยได้มีการซื้อขายยาเม็ดละ 200-250 บาท เมื่อได้เงินมาจะนำไปซื้อตกแต่งรถจักรยานยนต์วิบาก และซื้อปืนไทยประดิษฐ์มาประมาณกระบอกละ 3,500 บาท เพื่อเก็บไว้เป็นอาวุธประจำตัวทุกคน เพราะแต่ละคนจะมีอาวุธปืนติดตัวอย่างน้อยคนละกระบอก แต่ละคนเสพยาบ้านกันทั้งหมด ส่วนตนเองเสพยาบ้ามา 7-8 ปี แล้ว  ครั้งล่าสุดได้ไปรับยาบ้ามาจากเอเยนต์รายหนึ่ง นำมาเสพและจำหน่ายหมดในประมาณ 20 วัน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

 

นายสมยศ ยังให้การเพิ่มเติมว่า ตอนแรกที่เห็นตำรวจเข้าไปคนเดียว คิดจะยิงสวนเหมือนกัน แต่เห็นว่ามาคนเดียวจึงไม่อยากทำ เดี๋ยวจะหาว่าอาเปรียบ หากมากัน 3-4 คนคงจะยิงกันสนุกแน่  และเป็นจังหวะที่กำลังเสพยาและหิวข้าวพอดี จึงไม่มีการยิงใส่ตำรวจ เพราะว่าตนพร้อมกับลูกน้องจะมีการฝึกยิงปืนทุกวัน  ทำให้สามารถต่อสู้กับตำรวจได้อย่างสบาย เพราะแต่ละผ่านการใช้อาวุธปืนมาอย่างดี  จึงเชื่อว่าจะสามารถสังหารตำรวจได้อย่างสบาย

 

พล.ต.ท.วันชัย ผบช.ภ.6 กล่าวว่า เป็นกลุ่มค้ายาเสพติด ที่รับมาจากเรือนจำ  ชอบอยู่ในป่า ขายยาบ้า เพราะมีอุปกรณ์ครบทั้ง อาวุธปืน เครื่องสนาม ยาบ้าและกระสุนปืน น่าจะมีกลุ่มอื่นอีกต้องตรวจสอบขยายผล ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่ประมาท ต้องรัดกุมคนร้ายพร้อมจะต่อสู้ได้ตลอดเวลา อย่าเลินเล่อ จะกำชับการทำงานมากกว่านี้ เพื่อไม่บาดเจ็บและเสียชีวิต

 

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีแก่ผู้ต้องหาทั้งหมดในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมายและร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดยาบ้า

 

แสดงความคิดเห็น