ร้องผู้ว่าฯช่วยร่วมโครงการจำนำข้าวไม่ได้

0001เวลา 10.30 น.วันที่ 10 กันยายน 2556 ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ชาวนาจากต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จำนวนประมาณ 20 คน ได้มาขอพบนายปรีชา  เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้จังหวัดช่วยเหลือ ชาวนาในเขตม.5 และม.11 ต.ท่านางงาม พลาดโอกาสในการใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนาปรังรอบที่สอง ฤดูการผลิต2555/2556 ที่จะสิ้นสุดโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 15 กันยายน 2556 นี้ เนื่องจากชาวนากลุ่มนี้ ไม่ได้ทำการประชาคมการปลูกข้าวในการขยายเวลาประชาคมรอบที่สอง เพราะไม่ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้ดำเนินการทำประชาคม และเมื่อเกี่ยวข้าวไปแล้ว จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวได้ ทำให้พลาดโอกาส หากต้องขายสดให้โรงสี ก็จะได้ราคาขายข้าวเพียงตันละ 6,000-6,500 บาท เท่านั้น แต่หากเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวได้ จะสามารถจำนำข้าวได้ประมาณตันละ 11,100 บาท ทำให้แต่ละรายเสียโอกาสเงินที่จะได้จากการทำนาปรังรอบนี้ร่วมแสนบาท0002

 

นายใจ สุมโชติ หนึ่งในตัวแทนเกษตรกร อ.บางรชาวนาจากต.ท่านางงาม เปิดเผยว่า พวกตนได้เข้ามาร้องเรียนกับเกษตรจังหวัดพิษณุโลกรอบหนึ่งแล้ว เมื่อวานนี้ 9 กันยายน 2556 และได้รับคำชี้แจงว่า เกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอบางระกำ ได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากทราบปัญหาช้า เกิดการสื่อสารผิดพลาดระหว่างผู้ใหญ่บ้านกับลูกบ้านในการทำประชาคม จึงทำไม่สามารถเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวได้ และพวกตน ต่างก็เก็บเกี่ยวข้าวไปหมดแล้ว เพราะเป็นข้าวอายุ 100 วัน เมื่อถึงเวลาก็ต้องเก็บเกี่ยว แต่เงื่อนไขของภาครัฐ ไม่สามารถช่วยได้ เพราะข้าวได้เก็บเกี่ยวไปแล้ว ในวันนี้จึงมาร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกมาช่วยเหลืออีกทาง เพราะหากขายข้าวให้โรงสีวันนี้ ก็จะได้ราคาเพียงตันละ 6,000 กว่าบาท แต่หากได้สิทธิ์รับจำนำข้าว ก็จะได้ในราคาตันละ 11,000 บาท0003

 

ทั้งนี้ นายปรีชา  เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สอบถามข้อมูลจากชาวบ้าน และสอบถามยืนยันว่า เป็นข้าวนาปรังรอบที่สอง และเป็นข้าวของชาวนาเอง หากแจ้งเท็จ ก็จะมีความผิดทางกฎหมาย พร้อมกับเชิญเกษตรจังหวัดพิษณุโลก เกษตรอำเภอบางระกำ มาประชุมเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวนากลุ่มนี้ และให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก รับเรื่องร้องทุกข์อีกทาวง ซึ่งนายดิเรก  ยิ้มห้อย เกษตรอำเภอบางระกำ ได้มาแจ้งกับชาวนาที่มาร้องเรียนว่า หลังทราบปัญหาได้พยายามหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากทราบปัญหาล่าช้า ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือใด ๆ ได้ ระบบข้อมูลของโครงการรับจำนำข้าวได้ปิดข้อมูลหมดแล้ว ขณะนี้ได้รับการประสานงานจากนายนิยม  ช่างพินิท ส.ส.พรรคเพื่อไทยจ.พิษณุโลก จะช่วยประสานโรงสีต่าง ๆ ให้ช่วยรับซื้อข้าวจากชาวนากลุ่มนี้ในราคาที่สูงกว่าราคาท้องตลาดบ้าง

0004

นายวีระศักดิ์ อัตถไพศาล เกษตรจังหวัดพิษณุโลก ชี้แจงว่า จังหวัดพิษณุโลกประสบปัญหาจากข้อผิดพลาดของเจ้าหน้าทำให้ไม่สามารถทำประชาคมและออกใบรับรองเกษตรกรได้ทัน จำนวน 3 อำเภอ คือ อำเภอพรหมพิราม  เกษตรกร 200 คน อำเภอวัดโบสถ์ เกษตรกร  40 คน   และอำเภอบางระกำ 40 คน ที่ทางเกษตรจังหวัดกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เป็นข้อผิดพลาดของการสื่อสาร ที่ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ได้แจ้งให้ชาวบ้านในพื้นที่ทำการประชาคมรอบสองเพิ่มตามระยะเวลาที่กำหนด หลังทราบเรื่อง ได้นำปัญหาเข้าสู่คณะอนุกรรมการข้าวระดับอำเภอ และระดับจังหวัด เพื่อทำการช่วยเหลือชาวนากลุ่มนี้ แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องมีข้าวอยู่ในนาข้าว เป็นข้าวที่เก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 กันยายน2556 แต่ชาวนาที่มีปัญหาคือ ได้เก็บเกี่ยวข้าวไปเรียบร้อยแล้ว และนำไปฝากไว้กับโรงสี เกษตรกรบางระกำ 2 หมู่บ้านที่มาเรียกร้องอยู่นอกเหนือแนวการช่วยเหลือ ยากเกินจะเยียวยาได้ แนวทางแก้ไขปัญหาคงต้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ขอความร่วมมือจากโรงสีในการรับซื้อข้าวในราคาที่สูงขึ้นเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น