เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 22 มกราคม 2561 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 อำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลกพันตำรวจเอกปิติ นฤขัตรพิชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 รับคำสั่งจากพลตำรวจโททวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ให้แถลงผลการจับกุม นายมนตรี ฉันทนิต พร้อมพวกรวม 3 คน ซึ่งเป็นเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ด
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 6 ได้จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในพื้นที่อำเภอพิชัยจังหวัดอุตรดิตถ์จำนวน 2 รายพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 802 เม็ดและการสืบสวนขยายผลทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นเครือข่ายของนายโต้ง ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างโดยจะสั่งยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย อุตรดิตถ์ และในจังหวัดพิษณุโลก และมีเครือข่ายที่ร่วมกระบวนการในพื้นที่หลายคนของนายโต้งที่ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว จนนายโต้งต้องหลบหนีไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแต่ยังมีพฤติกรรมการค้ายาเสพติดโดยอาศัยเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่เป็นผู้ดูแลและจำหน่ายยาเสพติดให้ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมและสืบสวนติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและทำการสืบสวนจนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดของนายโต้งอยู่ในพื้นที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ทำหน้าที่จำหน่ายยาเสพติดและเก็บซุกซ่อนยาเสพติดเพื่อรอการจำหน่ายจึงได้ทำการวางแผนล่อซื้อจับเครือข่ายดังกล่าวจึงสามารถจับกุมได้ ผู้ต้องหา และขยายผลเครือข่ายของผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้จำนวนทั้งสิ้น 3 รายพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ดจึงได้แจ้งข้อหาและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปผู้ต้องหา 3 คนประกอบด้วย 1 นายมนตรี หรือ หนิง ฉันทนิต อายุ 36 ปีชาวจังหวัดสุโขทัย 2 นายสาโรจน์ หรือถ้ำ กระจง อายุ 40 ปีชาวจังหวัดสุโขทัย และนายทม ทรงอยู่ อายุ 55 ปีชาวจังหวัดสุโขทัย
จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในความครอบครองเพื่อยจำหน่ายและร่วมกันพยายามจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย ส่วนนายโต้ง ผู้ค้ารายใหญ่นั้นกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 กำลังเร่งดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
………………………………………………………………………………………….
…..