ย้อนรอยภูหินร่องกล้าตอน 5 ย้ายฐานปฏิบัติการ โดยเสือ ภูลมโล

ย้อนรอยภูหินร่องกล้าตอน 5 ย้ายฐานปฏิบัติการ โดย เสือ   ภูลมโล

เช้าของวันใหม่ในต้นปีพ.ศ. 2525 รถ จีเอ็มซี 10 ล้อของพตท.33 มาจอดรออยู่ทางขึ้นฐานฯผบ.ร้อยสั่งเก็บของแล้วทยอยขนลงไปขึ้นรถ ทุกนายรู้แล้วว่าจุดหมายปลายทางที่เราจะต้องไปตั้งฐานปฏิบัติการแห่งใหม่ คือ บ้านห้วยระหงส์ ตำบลปากช่อง อำเภอหล่มสัก ติดเขตอุทยานฯน้ำหนาว ภารกิจคือการช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกอยู่ภายใต้ผู้มีอิทธิพล และสกัดกั้น พคท.กลุ่มเขตงานอำเภอภูเขียวจังหวัดชัยภูมิ ที่จะเคลื่อนไหวไปที่ภูหลวงจังหวัดเลย หมู่บ้านห้วยระหงษ์ตั้งอยู่บนเทือกเขาทางทิศตระวันออกของอำเภอหล่มสักใกล้แนวเขตของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จากถนนสายหล่มสัก – ชุมแพเข้าไป 2 กม.เป็นทางดินธรรมดาหน้าฝนใช้การไม่ได้ หมู่บ้านประมาณ 80 หลังคาเรือน ประชาชนในหมู่บ้านอพยพมาจากหลายที่ ทั้งไปจากหล่มสักและจากอำเภอชุมแพจังหวัดขอนแก่น อาชีพทำไร่ข้าวโพด การปลูกบ้านของชาวบ้านจะปลูกตามเนินเขามีป่าเต็งรังล้อมรอบ อยู่อย่างกระจัดกระจาย รถจีเอ็มซีวิ่งผ่านหมู่บ้านไปจอดที่เนินเหนือหมู่บ้าน ผบ.ร้อยสั่งให้ตั้งฐานลอยไปก่อนจัดเป็นวงกลมอาศัยต้นไม้เป็นที่กำบัง กำลังทหารให้ทำการขุดร่องบังเกอร์และหลุมบุคคลเท่าที่ทำได้เพื่อเข้าเวร จากนั้นผบ.ร้อยเรียกกับทหารมา 6 นายหนึ่งใน 6 มีผมด้วย เพื่อเข้าไปพบปะผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน เราเดินลงไปถึงบ้านผู้ใหญ่ มีชาวบ้านเกือบ 20 คน คอยให้การต้อนรับ ระหว่างผบ.ร้อยกำลังนั่งคุยกับผู้ใหญ่นั้น มีชายวัยกลางคนรูปร่างสูงไว้ผมทรงจอนหน้าเขียงเดินตรงมาที่ผม ผมรีบชิงยกมือไหว้ก่อน เขายืนตรงโค้งคำนับตอบรับทันที เขาบอกว่าดีใจมากที่มีทหารมาอยู่ที่หมู่บ้านของเรา เพราะไม่มีหน่วยงานภาครัฐมาดูแลเลย  ตามที่ผมสังเกตตัวเขาเองเขาเป็นคนที่ผ่านโลกมามาก และเป็นผู้ที่มีการศึกษาหากเปรียบเทียบกับคนวัยเดียวกันกับเขา และยังเป็นคนที่มีอุดมการณ์ในตัวอีกด้วย  ต่อมาผมทราบภายหลังว่าชายดังกล่าวมีชื่อว่า ลุงไหว  หรือ เสือเพิก ชุมแพ ตามที่ชาวบ้านที่นั่นได้ยืนยัน และประกอบกับทางข้อมูลผม ลุงไหวเป็นเสือเพิกตัวจริงด้วย เสือเพิกเป็นคนเกิดที่อำเภอหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์ ในวัยหนุ่มไปอยู่ที่อำเภอชุมแพจังหวัดขอนแก่น ในยุคนั้นสมัยนั้นในหมู่บ้านตามชนบทมีพวกเกเรตั้งตัวเป็นเสือที่คอยปล้นชาวบ้านกิน แถวอำเภอชุมแพก็เต็มไปด้วยเสือ เสือเล็กเสือใหญ่ออกอาละวาด แต่เสือเพิกก็เป็นนักเลงหัวไม้อีกคนหนึ่งที่หลายคนเกรงกลัวบันดาเสือต่างๆในอำเภอชุมแพออกปล้น ชาวบ้านแต่ละครั้งก็มักจะใช้ชื่อของเสือเพิกเพื่อเป็นการโยนความผิดและเพื่อที่จะให้ตัวเองพ้นผิด แต่เสือเพิกเป็นคนที่ช่วยเหลือคนและเป็นคนที่ไม่ยอมใคร และชาวบ้านส่วนใหญ่รักเสือเพิก เสือเพิกเองก็เคยโดนตำรวจจับ แต่พอสอบสวนแล้วก็ถูกแอบอ้างชื่อ ในที่สุดเสือเพิกก็ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยการนำทีมของเขาออกปล้น แต่เสือเพิกไม่ได้ปล้นชาวบ้าน แต่ไปปล้นเสือต่างๆที่ไปปล้นชาวบ้านไว้ แล้วเสือเพิกนำทรัพย์สินที่ปล้นได้จากเสือต่างๆที่ไปปล้นชาวบ้านมา แล้วก็นำทรัพย์สินไปคืนชาวบ้านที่ถูกเสือต่างๆไปปล้นมา  เสือเพิก เขาให้ความร่วมมือกับนายอำเภอและตำรวจปราบเสือที่ชุมแพจดหมดสิ้น จากนั้นก็เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม มีครอบครัวอยู่ที่บ้านห้วยระหงษ์อำเภอหล่มสัก ผมเองอยู่ที่ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ 2 ปี ก็เลยทำให้รู้จักเสือเพิกหรือลุงไหวดี เสือเพิกในหนังชุมแพ เขาเป็นนายอำเภอ แต่ชีวิตจริงเป็นลูกน้องนายอำเภอครับ นายอำเภอชุมแพท่านนั้นเก่งมากใช้เกลือจิ้มเกลือได้ผลเต็มร้อย แต่เรื่องชีวิตจริงของเสือเพิกนี้ เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้วนะ กว่า 50 ปีก่อนครับ ปัจจุบันลุงไหวหรือเสือเพิกจำอะไรไม่ได้แล้ว   ผมขอพาท่านผู้อ่านย้อนกลับมาสู้เรื่องราวภารกิจของทหารพรานทีมของผมที่ฐานฯบ้านหว้ยระหงส์กันดีกว่าครับ ฐานเราย้ายมาไม่ถึงปีเราสามารถดึงแนวร่วมที่เป็นชาวบ้านในแถบนี้ได้ทั้งหมด แต่การเคลื่อนไหวของพคท.ที่ยังไม่ยอมวางอาวุธยังมีการเคลื่อนไหวเกาะติดฐานฯเราอยู่ตลอด ส่วนภารกิจที่เราต้องทำอีกอย่างก็ปราบปรามผู้มีอิทธิพลไปด้วย  กลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพล การปฏิบัติของเขาก็คือการลักลอบตัดไม้ แปรรูปไม้ขาย เราได้ทำการจับคุมพวกนี้มาหลายครั้งจนเกิดข้อขัดแย้งกัน และอีกภารกิจที่จะต้องดำเนินการเร่งด่วนก็คือทำการย้ายหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ไปตั้งหมู่บ้านอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นหนุนหลัง หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ลึกเข้าไปด้านในจากบ้านห้วยระหงษ์อีก 4 –5 กม.โดยเจ้าหน้าที่ทางอุทยานฯก็ได้ดำเนินการมาตลอด แต่ไม่สามารถจัดการกับกลุ่มนี้ได้ ผบ.ร้อยเคยพูดกับผมว่าไอ้เสือ เขาอยู่ได้เราอยู่ไม่ได้ เราอยู่ได้เขาอยู่ไม่ได้ เองจำไว้ก็แล้วกันไอ้เสือ  ยังไม่ทันย้ายหมู่บ้านดังกล่าว วิทยุจาก พตท.33 ที่เป็นหน่วยแม่ มีการแจ้งเตือนมาตลอดให้ฐานเราระมัดระวังตัว เพราะฝ่ายตรงข้ามมีการวางแผนเข้าตี จากการเตือนของหน่วยเหนือ เราเตรียมพร้อมกันตลอดเวลา วิทยุพร้อม กำลังพร้อม ตามคำแจ้งเตือนนั้น  เท่าที่สังเกตก็มีแววเป็นความจริงด้วย คือในช่วงเวลาตี 2 ของทุกคืน ผมได้ยินสุนัขในหมู่บ้านเห่ารับกันจากท้ายบ้านจนถึงหัวบ้านทุกคืนเลย

( พิษณุโลกฮอตนิวส์ 23 มิ.ย.2561 นำเสนอผลงานเขียนของพี่เสือ  ภูลมโล หรือ คุณมนัส  สีเสือ จนท.ประชาสัมพันธ์อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ผู้มีประสบการณ์และความทรงจำในการปฏิบัติหน้าที่ทหารพราน เมื่อครั้งยังมีการต่อสู้ทางอุดมการณ์และอาวุธระหว่างรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยบนภูหินร่องกล้า จนล่วงเลยผ่านมาสู่การปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า ให้ข้อมูล และนำเที่ยวภูหินร่องกล้า สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมของจ.พิษณุโลก พี่เสือ ภูลมโล ได้บันทึกความทรงจำไว้หลายเหตุการณ์อย่างน่าสนใจ จะนำเสนอเป็นเรื่องราวต่อเนื่อง จำนวน 9 ตอน บนเว็ปไซด์พิษณุโลกฮอตนิวส์ )

อ่านบทความเดิม ย้อนรอยภูหินร่องกล้าตอน 1 พรรคคอมมิวนิสต์แทรกซึม…โดยเสือ ภูลมโล  23 มิ.ย. 2561

ย้อนรอยภูหินร่องกล้าตอน 2 จุดยุทธภูมิสู่แหล่งท่องเที่ยว โดยเสือ ภูลมโล 30 มิ.ย.61

ย้อนรอยภูหินร่องกล้าตอน 3 การรุกของฝ่ายรัฐบาล โดยเสือ ภูร่องกล้า7 ก.ค.61

ย้อนรอยภูหินร่องกล้าตอน 4 ภารกิจซุ่มโจมตี โดยเสือ ภูลมโล14 ก.ค.61

…………………………………………………………………………….

 

แสดงความคิดเห็น