ชาวบ้านต.วังนกแอ่นรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทำฟาร์มแกะ-แพะ เนื้อกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด

นางขจิต พลรัฐ อายุ 54 ปี เกษตรกรชาวบ้านในพื้นที่ ต.วังนกแอ่น ที่ได้ใช้พื้นที่ของตนเองจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนเศรษฐกิจพอเพียงแบบยั่งยืน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เลขที่ 11/1 ม.7 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้รวมตัวกันจัดตั้งขึ้น เป็นฟาร์มแกะ-แพะ วังทอง เพื่อให้สมาชิกในกลุ่ม ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่มจำนวน 25 คน ซึ่งภายในฟาร์มเลี้ยงแกะอยู่ประมาณ 60 ตัว และแพะ อีกประมาณ 29 ตัว โดยจะเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติในที่ดินของตนเองบนเนื้อเกือบ 50 ไร่ ซึ่งขณะทั้งแกะและแพะกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก

นางขจิต พลรัฐ หรือป้าเหี่ยน ได้บอกว่า ได้เริ่มเลี้ยง แกะ แพะ มาเมื่อปี 2557 โดยเริ่มจากการเลี้ยงแพะ 10 ตัว และแกะ 10 ตัว หลังจากนั้นการตลาดเริ่มดีขึ้น จึงเพิ่มการเลี้ยงขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีแกะ แพะ เลี้ยงรวมกันกว่า 100 ตัว โดยตนได้เลี้ยงแบบปล่อย กินหญ้าภายในบริเวณสวนตามธรรมชาติ และช่วงบ่ายก็จะให้อาหารเสริมที่ทางฟาร์มผสมเองแบบอินทรีย์จะเป็นพวก เปลือกกล้วย มันสำปะหลัง ถั่ว ปัจจุบันตลาดของแกะและแพะเป็นที่ต้องการมาก โดยเฉพาะตลาดทางภาคใต้ และกลุ่มคนเชื้อสายมุสลิม และจีน ซึ่งมีผู้นิยมบริโภคเป็นจำนวนมาก

โดยแกะ สามารถเริ่มจำหน่ายได้ตั้งแต่อายุประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ให้กับลูกค้า เช่น รีสอร์ท ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่ต้องการให้ลูกค้าได้ป้อนนม แกะ แพะ ส่วนใหญ่ก็จะขาย ในราคา 1000-2000 บาท และสำหรับ แกะ แพะ มีอายุประมาณ 1 ปี ที่มีน้ำหนักตัว 40-50 กิโลกรัม ก็จะส่งจำหน่ายให้กับสมาคมผู้เลี้ยงแกะแพะ แห่งประเทศไทย ในกิโลกรัมละ 100 บาทขึ้นไปตามช่วงฤดูกาล โดยช่วงที่สามารถจำหน่าย แพะ แกะ เนื้อได้ดีที่สุด ก็คือช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึง ต้นเดือนกันยายนนอกเหนือจากนั้นก็จะมีรายได้มาจากการขายมูล ในราคากระสอบละ 40 บาท ซึ่งชาวบ้าน หรือเกษตรกรทั่วไป นิยมเอาไปทำปุ๋ยอินทรีย์ เพราะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้

ป้าเหยี่นบอกต่ออีกว่ากลุ่มวิสาหกิจของตน เป็นกลุ่มเกษตรพอเพียง อาศัยแลกเปลี่ยนกันภายในกลุ่ม เช่นสมาชิกนำกล้วยมาให้ ทางกลุ่มก็จะให้มูลแกะแพะไปทำปุ๋ย นอกเหนือจากนี้ทางกลุ่มยังเลี้ยงไก่ประเภทไก่ไข่ ไก่เนื้อ ไก่ชน ไว้ขายได้อีกด้วย และได้ทำเกษตรอินทรีย์จากมูลสัตว์ควบคู่กันไป ด้วยการปลูกผักบุ้งในวงบ่อ หรือแม้แต่ มะเขือ มะละกอ รายได้ที่ขายได้มาก็จะนำมาเข้ากองกลางของกลุ่ม ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลแกะและแพะ พอครบปีก็จะน้ำมาปันผลแบ่งให้กับสมาชิกในกลุ่ม

ตอนนี้ฟาร์มของตนกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ สร้างคอกใหม่หลังจากคอกเก่าถูกลมพายุพัดพังเสียหาย โดยเราก็ได้เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่มาช่วยสร้าง และต้องขยายคอกเพิ่มคัดแยกแกะกับแพะให้อยู่เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น และปรับปรุงเรื่องภูมิทัศน์โดยรอบเตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวฟาร์ม เรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง และได้เลี้ยงนมให้กับแกะและแพะภายในฟาร์ม หากใครสนใจอยากจะเข้ามาเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตก็สามารถติดต่อได้ที่ป้าเหยี่ยน 0840494690

แสดงความคิดเห็น