ผู้ว่าฯประชุมรับมือโควิด จัดเวรยามติดตามกลุ่มเสี่ยงระดับหมู่บ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หัองประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่อรับนโยบาย มาตรการ และแนวทางการรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 จากส่วนกลางผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference System) โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน พร้อมกับให้แนวทางในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19

ในที่ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้มอบหมายให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก จัดทำประกาศจังหวัดพิษณุโลกในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้มีความครอบคลุมในทุกด้าน อาทิ มอบอำนาจให้นายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอและผอ.รพ.สต. กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จัดเวรยามในการเฝ้าระวังดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ อย่างเข้มงวดหากพบเจอผู้อยู่ในกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวัง ให้แจ้งมายังจังหวัดทันที โดยเฉพาะกรณีหากเป็นผู้มี่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทัง 4 ประเทศ (จีน เกาหลี อิตาลีและอิหร่าน) หากพบต้องมีใบรับรองแพทย์ ประกันชีวิต ใช้แอปพลิเคชั่นติดตามตัว หากไม่มีข้อใดข้อหนึ่งให้แจ้งมาที่ จังหวัดโดยต่วน ในส่วนของสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้านคาราโอเกะ ร้านเกมส์ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ร้านนวดแผนไทย ฯลฯ ขอให้มีจุดคัดกรอง ก่อนเข้าใช้บริการ ตัองมีวัดไข้ มีเจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย จัดที่นั่งให้ห่างกัน 1 เมตร มีการทำความสะอาดจัดระเบียบสถานที่ โดยจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกไปตรวจความเรียบร้อยตลอดระยะเวลา

ขณะที่นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากโรคโควิด-19ในประเทศไทย แม้ว่าโรงพยาบาลจะมีมาตรการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกและมีประวัติเสี่ยงร่วมด้วยเช่น เดินทางกลับจากต่างประเทศ หรือบุคคลใกล้ชิดกลับจากต่างประเทศหรือสัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดเชื้อรายเก่า แต่การที่มีผู้ป่วยและญาติจำนวนมากเข้ามาเข้าใช้บริการในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ป่วยสูงอายุ เด็ก หรือผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำผู้มีโรคประจำตัวต่างๆ จะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ และทำให้มีอาการแย่ลงได้ ดังนั้นโรงพยาบาลจึงมีมาตรการลดความแออัด โดยให้ผู้ป่วยนัดที่มีอาการคงที่ รับยาได้ที่ร้านยา หรือสถานบริการใกล้บ้าน แต่หากมีอาการผิดปกติ สามารถเข้ามารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลได้ หากมีการเจาะเลือดสามารถเจาะเลือดได้ที่ สถานบริการใกล้บ้าน กรณีไม่สะดวกสามารถมาใช้บริการที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ได้ตามเดิมปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับบริการ วันละประมาน 3,000 ราย ซึ่งถือว่ามีความแออัดมาก เสี่ยงต่อการติดและแพร่กระจายเชื้อโรคโควิด-19 ภายใน 6 เดือนนับจากนี้ โรงพยาบาลมีเป้าหมายลดจำนวนผู้ป่วยลงร้อยละ 50 โดยสอดคล้องกับ นโยบายผู้ป่วยรับยาที่ร้านยา โดยไม่ต้องรอคิวที่โรงพยาบาล

////////////

แสดงความคิดเห็น