ผู้ว่าประชุมเฝ้าระวังเตรียมความพร้อมรับมือโควิด-19

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.63  ที่ห้องประชุม พระศรีศาสดา (poc) ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก หลังเก่า นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 35/2563 เดี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 การเฝ้าระระวังในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก

โดยกลุ่มเป้าหมายในการตรวจทางห้องปฏิบัติการโรคติดเชื้อโควิด-19  1.การตรวจสำหรับการเฝ้าระวังในกลุ่มต่างๆ ดังนี้การเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ป่วย หรือมีอาการเข้าได้กับนิยาม PUI   การตรวจคัดกรองในประชากรเสี่ยงตามจุดคัดกรองและด่านเข้าออกระหว่างประเทศ(Screening) การเฝ้าระวังในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะหรือพื้นที่เฉพาะ (Sentinel Surveillance) การเฝ้าระวังเหตุการณ์ในสถานที่เสี่ยง เก็บตัวอย่างส่งตรวจเมื่อเข้าเกณฑ์ PUI และเป็นกลุ่มก้อน รายงานผ่าน EBS (Event-based- Surveillance) 2.การตรวจสำหรับการสอบระบาดวิทยา กรณีพบผู้ป่วยยืนยัน อย่างน้อย 1 รายขึ้นไป  การติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด(Close contact tracing) การค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก(Active case finding)  การค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน กรณีพบผู้ป่วยต่อเนื่องเกิน 28 วัน  หรือตามสถานการณ์การระบาด 3.การตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาการติดเชื้อในกลุ่มประชากรเสี่ยงหรือสถานที่เสี่ยง นอกเหนือการเฝ้าระวังที่กำหนดไว้ เช่นบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มอาชีพเสี่ยง (พนักงานสถานบันเทิง พนักงานขับรถสาธารณะ) กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในสถานประกอบการหรือชายแดน ชุมชนแออัด หรือผู้สูงอายุร่ายใหม่ที่เข้าพักในบ้านผู้สูงอายุของรัฐ 4.การตรวจเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ได้แก่ ผู้ป่วยต้องการตรวจเอง การตรวจในสถานประกอบการ กิจการ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องการเปิดบริการ หรือกิจกรรม

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก ได้พูดถึงแนวทางการปฏิบัติ สำหรับเคสที่เกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของจังหวัดพิษณุโลก ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงมีไมกี่ราย  ส่วนใหญ่เสี่ยงต่ำ ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ และมีแนวทางปฏิบัติอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่ไปรวมอยู่ในผู้ที่มีเชื้อแต่ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิด ต้องปฏิบัติอย่างไร เราเพิ่มความเข้มข้น ในการประชาสัมพันธ์ให้คนยึดถือตามมาตรการสาธารณสุข สร้างความปลอดภัย ก็คือ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ให้ห่างกัน 2 เมตร ระยะเวลาที่เข้าไปอยู่ในการชุมนุมหนาแน่นให้น้อยลง  ใช้ชีวิตตามปกติ ที่สำคัญใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เรื่องความรับผิดชอบของคน ถ้าเรารู้ว่าไปสัมผัสเสี่ยงใกล้ชิด ต้องกักพื้นที่ตัวเอง ไปหาหมอไม่ปิดบังข้อมูล

ผู้ว่าฯ  กล่าวเกี่ยวกับการปิดสถานศึกษา ว่า เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารสุขกับกระทรวงศึกษาธิการ  เกี่ยวกับมาตรการการปิดโรงเรียน จริงๆมีแนวทางปฏิบัติอยู่แล้ว จังหวัดพิษณุโลกยังไม่อยู่ในมาตรการจะต้องปิดโรงเรียน จึงมีการกำหนดแนวทาง ว่าถ้าทราบข่าว มีการติดเชื้อในพื้นที่ ขอให้เป็นมติของคณะกรรมการการควบคุมโรคติดต่อ จึงจะสั่งปิดโรงเรียน ยกเว้นว่ามีการระบาดมากเร็ว  อาจจะใช้การประสานทางโทรศัพท์ขอข้อมูลกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งทางสาธารณสุขจะหารือกับตนกับในฐานะประธานคณะกรรมการการควบคุมโรคติดต่อ หามาตรการในการที่จะปิดโรงเรียนต่อไป

ผู้ว่ารณชัย กล่าวว่า เราจะมีการตรวจเป็นระยะๆในกลุ่มเสี่ยง อย่างเช่นแพทย์  พยาบาลที่ทำงานคนจำนวนมาก ซึ่งกำหนดไว้ 3-4 กลุ่ม  ในวันนี้ที่ประชุมได้กำหนดเพิ่มเติม เช่นผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ  สถานบันเทิง  เพราะเป็นพื้นที่ปิด มีคนเข้าออกจำนวนมากอยู่พื้นที่เป็นเวลานาน และจะมีการไปสุ่มตรวจกลุ่มนี้เป็นระยะๆ และกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ต่างๆ เพราะว่า และกลุ่มที่ทำหน้าที่ในช่องทางการคมนาคม สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่งผู้โดยสาร  ที่กำหนดเพิ่ม เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น  และจะทำการตรวจเชิงรุกเป็นระยะๆ  จะทำให้การควบคุมโรคดียิ่งขึ้น

นายแพทย์ไกรสุข เพชรบูรณิน แพทย์สาธารณสุขพิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับผู้ที่สำผัสในกรณีที่ความเสี่ยงต่ำ จากเที่ยวบินมาลงพิษณุโลก มีอยู่จำนวนหนึ่ง  ทางสาธารณสุขได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. เฝ้าระวัง ติดตามครบทุกคน ได้ดำเนินการตามมาตรการและมาตรฐานในการเฝ้าระวังและการควบคุมโรค อย่างเคร่งครัด  ซึ่งจะครบกำหนด ในวันที่ 12 ธันวาคม ให้ความมั่นใจพี่น้องประชาชน ซึ่งได้ติดตามเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

………………………………………………………………………..

แสดงความคิดเห็น