เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ที่บริเวณพื้นที่ต้นแบบการเรียนรู้ชุมชนพัฒนาแบบยั่งยืน ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” โดยปักกระถางพืชผัก ร่วมปลูกพืชผักสมุนไพรและโปรยเมล็ดพันธุ์ผัก รวม 28 ชนิด ปลูกต้นส้มซ่า เป็นสัญลักษณ์การขยายผลแปลงสาธิต “จากส้มซ่า สู่ ท่าโพธิ์” และเยี่ยมชมอุดหนุนผลิตภัณฑ์/ผลิตผลจากกิจกรรมกลุ่มสวัสดิการชุมชนสร้างรายได้ โคกหนองนาโมเดล และตลาดประชารัฐ เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างรายได้ตามโครงการ “ปลุกพลังความคิด ปรับวิถีชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง เปลี่ยนเมืองพิษณุโลกสู่ความยั่งยืน (SDGs) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน” ภายใต้โครงการอำเภอนำร่อง บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการ และสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลง กระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 โดยมีนายนิสิต สวัสดิเทพ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันทุกตำบล กลุ่มสวัสดิการชุมชนสร้างรายได้ เครือข่ายโคกหนองนา ครัวเรือนเป้าหมาย TPMAP ร่วมกิจกรรม
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า อำเภอเมืองพิษณุโลก ได้รับการคัดเลือกเป็นอำเภอนำร่อง ตามโครงการอำเภอนำร่อง บำบัดทุกข์บำรุงสุข แบบบูรณาการ และสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลง กระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ระดับกลุ่มจังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด 18 อำเภอทั่วประเทศ โดยนายอำเภอเมืองพิษณุโลก พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ภาคราชการ ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ภาคผู้นำศาสนา และภาคสื่อมวลชน เสนอโครงการ “ปลุกพลังความคิด ปรับวิถีชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง เปลี่ยนเมืองพิษณุโลกสู่ความยั่งยืน (SDGs) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน” เพื่อทำให้ “คน” ทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืน แก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เสริมสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ และส่งเสริมการเรียนรู้และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนมีความสุขเพิ่มมากขึ้น และมีความทุกข์ลดน้อยลงจนหมดไป
นายนิสิต สวัสดิเทพ นายอำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เป็นกิจกรรมหนึ่งตามโครงการที่ดำเนินการขับเคลื่อนด้วยพลัง “บวร” ในพื้นที่ 19 ตำบล 173 หมู่บ้าน ณ ครัวเรือนต้นแบบ หมู่บ้านละ 20 ครัวเรือน รวม 3,460 ครัวเรือน และ วัด 19 แห่ง โรงเรียน 19 แห่ง ดำเนินการคัดแยกขยะ จัดทำถังขยะอินทรีย์ และปลูกพืชผักผลไม้และสมุนไพร อย่างน้อยแห่งละ 15 ชนิด เพื่อบริโภค ลดรายจ่ายในครัวเรือน เหลือแบ่งปัน และจำหน่ายเพิ่มรายได้ ตามหลักทฤษฎีบันได 9 ขั้น สู่ความพอเพียง โดยกำหนด Kick Off “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” พร้อมกันทั้งอำเภอ และจัด Kick Off ณ แปลงสาธิต “จากส้มซ่า สู่ ท่าโพธิ์” ในวันนี้ ณ พื้นที่ต้นแบบการเรียนรู้ชุมชนพัฒนาแบบยั่งยืนการปลุกพลังความคิด กิจกรรม สร้างการรับรู้ และสร้างผู้นำระดับตำบล ปรับวิถีชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรม บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง/ถนนกินได้/ถังขยะอินทรีย์ โคกหนองนาโมเดล สวัสดิการชุมชนสร้างรายได้ ธนาคารพันธุกรรมพืช ตลาดประชารัฐ พื้นที่ต้นแบบการเรียนรู้ชุมชนพัฒนาแบบยั่งยืน (แปลงสาธิต “จากส้มซ่า สู่ ท่าโพธิ์” ข้างมหาวิทยาลัยนเรศวร) เปลี่ยนเมืองพิษณุโลกสู่ความยั่งยืน กิจกรรมศูนย์การเรียนรู้ชุมชนพัฒนาแบบยั่งยืน (Somsa Sustainable Community Learning Center)
โดยบรรยากาศในวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันปลูกพืชผักสมุนไพร โปรยเมล็ดพันธุ์ 28 ชนิด คือ 1. พริก 2. คะน้า 3. กวางตุ้ง 4. ผักชีใบเลื่อย 5. ผักกาดหอม 6. หอมแบ่ง 7. ตะไค้หอม 8. มะขามเปรี้ยวยักษ์ 9. มะขามป้อม 10. มะกรูด 11. ผักชีลาว 12. สะระแหน่ 13. ถั่วพู 14. มะเขือเปราะ 15. มะเขือยาวสีม่วง 16. มะเขือยาวสีเขียว 17. ฟักทอง 18. ผักบุ้ง 19. ผักกาดขาว 20. คะน้า 21. ผักกาด 22. แมงลัก 23. กะเพรา 24. ผักสลัด 25. เวอเตอร์เครป 26. บวบงู 27. น้ำเต้า 28. โรสแมรี่ และปลูกต้นส้มซ่า นับเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างรายได้ ให้แก่ครัวเรือน และ ชุมชนต่อไป
///////