พิษณุโลก หนุ่มเมืองนนท์ฆ่าหนุ่มมหาสารคาม ในวัดปลักแรด
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 11 ธ.ค.2565 ร.ต.อ.สุภัทรพงศ์ บุญกำเหนิด รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่วัดปลักแรด หมู่ที่ 5 ต.ปลักแรด ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลปลักแรด ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ทัพธนพล ปรุงประทิน ผกก.สภ.บางระกำ พ.ต.ท.เกตุชัย นาสอน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.วรวุธ ตนะทิพย์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.บางระกำ พ.ต.ท.พัชรพงศ์ ผู้ภักดี รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก พ.ต.ท.หญิง เรณุกา หมอนแพร นวท.(สบ 3) กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวร รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน พบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงายมีเลือดท่วมตัวอยู่บริเวณหน้าหอฉันท์ภายในวัด ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายธีรยุทธ ตุมร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 18 ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวคอปกสีดำ ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดบริเวณคอด้านขวาเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายบรรเจิด ยิ้มช้อย อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 25 ซอยนนทบุรี 17 แยก 6 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์ชันสูตรที่นิติเวช รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนติดต่อญาติให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ตำรวจสอบสวน นายประทีป หินอาจ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 14/1 หมู่ที่ 9 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ทราบว่า นายธีรยุทธมาทำงานก่อสร้างและพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักชั่วคราวใกล้กับบ้านของตน โดยเดินทางมาพร้อมกับนายบรรเจิด ซึ่งเป็นเพื่อนของตน ทั้งสองคนเดินทางมาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เริ่มทำงานวันเสาร์และวันอาทิตย์ กระทั่งเย็นวันอาทิตย์ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านของตน ก่อนที่จะพากันไปดูดนตรีที่วัดปลักแรด ช่วงก่อนเกิดเหตุตนไปหาซื้อสุราเพื่อนำไปดื่มต่อที่บ้านพักเนื่องจากใกล้เวลาที่ดนตรีจะเลิกแล้ว พอกลับมาบริเวณที่จอดรถหน้าศาลาหอฉันท์ก็พบว่าทั้งสองก่อเหตุไปแล้ว เห็นนายธีรยุทธนอนจมกองเลือดอยู่จะช่วยก็ช่วยไม่ทัน หลังจากกลับบ้านพักนายบรรเจิดได้โทรมาหาตน ตนจึงแนะนำให้มอบตัวกับตำรวจเพื่อจะได้บรรเทาโทษ ช่วงสายวันนี้ตนจึงไปรับตัวนายบรรเจิดมามอบตัวกับตำรวจที่บ้านพักของตนดังกล่าว
พระประพันธ์ จิตฺตมะโร อายุ 67 ปี พระกรุวัดวัดปลักแรดผู้แจ้งเหตุทาง 191 เล่าให้ฟังว่า วงดนตรีอ๊อด โฟร์เอส ที่มาแสดงที่วัด เนื่องจากเจ้าภาพจ้างมาแสดงเพื่อแก้บนหลวงพ่อทรัพย์ พรหมปัญญา อดีตเจ้าอาวาสวัดปลักแรด เพราะเด็กชายสองพี่น้องบุตรของเจ้าภาพชนะการแข่งขันโกคลร์ทได้เงินรางวัลมาหลายล้านบาท ก่อนเกิดเหตุทั้งสองคนนั่งดื่มสุราขาวอยู่บนท้ายรถยนต์กระบะ ตนได้เข้าไปเตือนว่าห้ามดื่มสุราภายในวัดแต่ทั้งสองคนก็อ้างว่าอยู่ในจุดอับไม่มีผู้ใดเห็นขอกินนิดเดียวก็หมดแล้ว เวลาผ่านไปไม่นานนักก็เกิดการกอดปล้ำกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุก็วิ่งหลบหนีออกจากวัดไปทันที
ส่วน นายบรรเจิด ผู้ก่อเหตุให้การกับตำรวจว่า นายประทีปบอกกับตนและนายธีรยุทธว่าให้มาพบกันที่รถเวลา 22.00 น. เพื่อจะได้เดินทางกลับบ้านพัก พอถึงเวลานายธีรยุทธยังไม่มาที่รถ และนายธีรยุทธก็ไม่มีโทรศัพท์ด้วย ตนถึงกับต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยประกาศตามหาให้นายธีรยุทธกลับมาที่รถ พอนายธีรยุทธมาถึงตนก็สอนเพราะเห็นเป็นรุ่นน้อง บอกว่าวันหลังจะไปไหนก็ไปด้วยกันอย่าแยกไปคนเดียว นายธีรยุทธที่อยู่ในอาการเมาสุราน่าจะไม่พอใจชกตนที่หัว 1 ครั้ง ทำให้กอดปล้ำกัน ตนตัวเล็กกว่าจึงควักมีดพับสำหรับปอกสายไฟแทงเข้าไปที่ลำคอ 1 ครั้ง จนนายธีรยุทธล้มลงเลือดกระจายเต็มพื้น ตนจึงเดินออกจากที่เกิดเหตุแล้วไปอยู่ในตลาดปลักแรดแล้วเดินไปเรื่อย ๆ ก่อนที่จะโทรหานายประทีปแล้วเข้ามอบตัวกับตำรวจ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะได้ทำการสอบสวนปากคำเพิ่มเติมพร้อมทนายความ ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลกฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป