หมออ๋อง พร้อมช่วยงานพรรค เดินหน้าสุราก้าวหน้า

พิษณุโลก นายปดิพัทธ์  สันติภาดา หรือ หมออ๋อง ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เขต 1 พิษณุโลก ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. อีกสมัย พร้อมช่วยงานพรรคเดินหน้าแก้ไขสุราก้าวหน้า

วันนี้( 15 พ.ค.) หลังจากผลการเลือกตั้งผ่านไปจังหวัดพิษณุโลก ผลการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 นายปดิพัทธ์  สันติภาดา หรือ หมออ๋อง พรรคก้าวไกล และเขตเลือกตั้งที่ 2 นายนพพล  เหลืองทองนารา พรรคเพื่อไทย 3 นายพงษ์มนู  ทองหนัก พรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 4 นางสาวพิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ พรรคเพื่อไทย และเขต 5 นาย ศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ พรรคก้าวไกล  โดยเฉพาะ เขต 1 นายปดิพัทธ์  สันติภาดา หรือ หมออ๋อง พรรคก้าวไกล ที่ยังรักษาเก้าอี้แชมป์เก่าได้เป็นผลสำเร็จ และในช่วงเช้าที่ผ่านมา หมออ๋อง ก็ได้นั่งรถยนต์และกราบขอบคุณประชาชนชาวพิษณุโลกที่ลงคะแนนเสียงให้จนเป็นผู้แทนฯอีก 1 สมัย

นายปดิพัทธ์  สันติภาดา หรือ หมออ๋อง ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เขต 1 พิษณุโลก กล่าวถึงผลเลือกตั้งที่ออกมาว่า รู้สึกดีใจ ที่การเมืองแบบที่เราทำเดินมาถูกทาง ไม่ใช่ดีใจว่าเราชนะได้เป็นส.ส.อีก แต่รู้สึกว่า การเมืองแบบที่ก้าวไกลเราทำแบบตรงไปตรงมา ทำงานกับประชาชนแบบไม่ซื้อเสียง  ยิ่งเราไม่ซื้อเสียง แล้วเราชนะ ทำให้มองเห็นว่าการเมืองบ้านเมืองเราเปลี่ยนไป ช่วงนี้เป็นช่วงการจัดตั้งรัฐบาล  พรรคเราได้คะแนนนำเป็นอันดับ 1 ได้เสียงมากกว่า  14 ล้านเสียง  กระแสการเปลี่ยนแปลงกระหึ่มมาก  คงต้องรอดูว่าการจัดตั้งรัฐบาล  สมการการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นแบบไหน อย่างไร ยังไม่สรุปกัน  เพราะว่ายังมีตัวแปร ส.ว.อีก 250 เสียง เพราะว่าบ้านเมืองของเราไม่ได้เป็นกติกาตามปกติ ต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเราได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล เราก็จะดูว่า กระทรวงต่างๆ ที่เราได้ เพื่อเร่งทำงาน รีบจัดการ ตามความต้องการของประชาชนให้โดยเร็วที่สุด

นายปดิพัทธ์  กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลก ครั้งนี้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงกันจำนวนมาก โดย ทั่วภาพรวมทั้งประเทศมากกว่า 80%  ถือว่าค่อนข้างมาก ส่วน จ.พิษณุโลก ออกมาใช้สิทธิ์ กว่า 75% แต่ก็มากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ขอขอบคุณหลายๆเสียงที่เป็นหัวคะแนนธรรมชาติ ขอบคุณประชาชน ที่มาเฝ้าดูกันนับคะแนนเสียง ทุกหน่วย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อเย็นวาน มีพายุ และฝนตกอย่างหนัก แต่กองเชียร์ และประชาชน ก็มาช่วยดูการนับคะแนนเสียงให้ไม่ได้หนีไปไหนเลย อันนี้ไม่ใช่ชัยชนะของผม แต่เป็นชัยชนะของประชาชนที่ต้องการเห็นเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ช่วงโค้งสุดท้าย มีการซื้อเสียงหนักมาก มีการใช้หัวคะแนน ใช้อำนาจรัฐ เข้ามาแทรกแซงเยอะมาก แต่ผู้นำท้องถิ่นหลายคนไม่ได้คล้อยตาม เปิดอิสระให้รณรงค์หาเสียงได้เต็มที่ จึงเป็นชัยชนะของคน เขต 1 พิษณุโลกนอกจากนี้พรรคก้าวไกล ยังได้ ส.ส.พื้นที่เขต 5 ด้วย ซึ่งหลายคนบอกว่าพรรคก้าวไกลไม่มีโอกาสชนะได้ในเขตชนบท แต่ด้วยการทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ ปัญหาที่ดิน การเข้าไปปกป้อง อ.วัดโบสถ์ จากเรื่องโรงไฟฟ้าขยะ ทำให้ประชาชนรับรู้  แล้วทำให้เขต  5  พรรคก้าวไกลเราก็ชนะอีกด้วย

 

“หลังจากเข้าไปแล้ว มีวาระ 100 วันแรก 1 ปีแรก และ หนึ่งสมัยแรก  โดย 100 วันแรก เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ทันที คือการจัดทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งฉบับ  เพื่อสร้างการเมืองที่ดีกว่านี้ให้ได้ เพราะกลไกในรัฐธรรมนูญ ปี 60 ไม่ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์ชาติ  สว. องค์กรอิสระ ยังขัดขวางการพัฒนาประเทศอยู่ เพราะฉะนั้นจะต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ถ้าประชามติผ่าน ก็เดินหน้าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ละเอียดละอองซึ่งจะใช้เวลานาน

อันดับที่ 2 คือจะทำเรื่องการปลดสุราก้าวหน้า เรื่องของสรรพสามิตเราจะได้เห็นกระแช่บ้านคลอง กระแช่พลายชุมพล กระแช่วัดโบสถ์ เหล้า ป่าดอนทอง เหล้าป่านครไทย คราฟเบียร์พิษณุโลก สามารถขึ้นมาบนดินได้ และยกเลิกคำสั่ง คสช. หลายอย่าง ที่ขัดขวาง พ่อค้าแม่ค้าการพัฒนาเมือง  ก็สามารถทำได้เลย เรื่องหวย SME จะทำแต้มต่อ ลดภาษีให้กับผู้ประกอบการรายย่อย และได้หวยด้วยในช่วง 100 วันแรก

 

ส่วนมาตรา 112 เป็นการแก้ไข ตอนนี้มาตรา 112 ได้รับการพูดคุยและตกตะกอนมากพอสมควรแล้ว ถ้าเอาสมการของพรรคฝ่ายค้านมาตั้ง พรรคเสรีรวมไทยเห็นด้วยกับการลดโทษ พรรคไทยสร้างไทย เห็นด้วย พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับการแก้ไข พรรคเพื่อไทย ขอให้นำเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรให้ได้  จึงเป็นเสียงฉันทามติของฝ่ายค้าน แล้วถ้าฝ่ายค้านรอบที่แล้ว สามารถเข้าไปจัดตั้งรัฐบาลได้ ถ้านำเข้าสู่สภาได้ การนำเสนอเสียงประชามติตรงนี้ ก็จะถูกแก้ไข  ส่วนจะผ่านไม่ผ่าน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่มาตรา 112 พรรคเราต้องการเพียงแก้ไข ไม่ใช่ยกเลิกมาตราดังกล่าว

//////////////

แสดงความคิดเห็น