ผู้ว่านำ ข้าราชการร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ในวันปิยมหาราช

วันนี้ (23 ตถลาคม2566) ที่บริเวณลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาราชสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2566 เพื่อแสดงความจงรักภักดี น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยมีนางดนิตา สมจิตต์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก นายพชรเศรษฐ์ บุญศิริสาริษา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมพิธี

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวคำน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ใจความว่า ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุทิศพระองค์บำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ และทรงปกครองพระราชอาณาจักรให้มีความมั่นคง และร่มเย็นเป็นสุขพระองค์มีพระราชดำริ พัฒนาชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน ทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูประบบการเงินการคลัง การศึกษา การสาธารณูปโภค ทรงยกเลิก ระบบทาส ระบบไพร่ และทรงนำศาสตร์การปกครองของไทยและชาติสากล มาผนวกใช้ในการปกครอง พระราชอาณาจักร นำพาชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นภัยดำรงอธิปไตย และความเป็นเอกราชของชาติไว้ได้อย่างมั่นคง ทำให้ประเทศชาติ มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศ

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 สิริรวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา นับเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ด้วยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่พระปรีชาสามารถ และเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรไทย สมกับพระราชสมัญญา “พระปิยมหาราช” ซึ่งแปลความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน”ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี ประชาชน ข้าราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ จะวางพวงมาลาดอกไม้สดสีชมพูอันเป็นสีของวันอังคาร วันพระบรมราชสมภพ  เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

//////

 

แสดงความคิดเห็น