ชาวอ.บางกระทุ่มสุดเศร้า ร่วมบริจาคสร้างศาลาหลายปี ไฟไหม้ 15 นาทีวอดหมด

พิษณุโลก  เจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว ความดันขึ้นสูง หลังพระเพลิงเผาผลาญศาลาการเปรียญไม้สักทรงไทยมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ชาวอำเภอบางกระทุ่มสุดเศร้า ร่วมบริจาคสร้างศาลาทรงไทย ใช้เวลาหลายปี แต่เพลิงลุกไหม้เพียงแค่ 15 นาที เสียหายทั้งหมด

วันที่ 13 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น. เกิดเหตุเพลิงโหมลุกไหม้ ศาลาการเปรียญไม้สักทรงไทย 2 ชั้น ภายในวัดห้วยแก้ว เลขที่ 27/3 หมู่ 3 ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ล่าสุดเช้านี้บรรดาชาวบ้านในพื้นที่ต่างเดินทางมาดูจุดเกิดเหตุพร้อมกับให้กำลังใจพระครูสุนทรกิตติรัต หรือพระครูยูร เจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว และรองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เป็นลมและความดันโลหิตขึ้นสูงจนญาติโยมต้องช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ทางตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุแต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากซากศาลาการเปรียญยังมีความร้อนที่ถูกเผาไหม้คุกกรุ่นอยู่ และมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนป้ายแดง ผค 7014 พิษณุโลก ที่จอดอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ถูกไอร้อนจากเปลวเพลิงจนตัวรถเสียหายอีก 1 คัน ทำให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานต้องเข้ามาเร่งระดมฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อคลายความร้อนระอุให้หายไป

ด้าน นายวรณัร วริศธราวุธ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานสำนักงานงานป้องกันเทศบาลตำบลบางกระทุ่ม เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กล่าวว่า ได้รับแจ้งเวลา 02.43 น เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงที่เกิดเหตุไฟก็ลุกไหม้ศาลาไป 90% แล้ว รดน้ำรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานได้พยายามป้องกันบริเวณด้านหลังเนื่องจากเป็นแฟลตตำรวจที่มีผู้อยู่อาศัยและมียานพาหนะจำนวนมากและสามารถหล่อเลี้ยงน้ำป้องกันไม่ให้ไฟลุกไหม้ไปยังแฟลตตำรวจได้ ขณะที่ศาลาการเปรียญนั้น ไฟไหม้เสียหายทั้งหมดในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้จากการ จาการตรวจสอบแล้วพบว่ามีศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญชั้นล่างถูกเพลิงไหม้ไปด้วย เป็นหญิงอายุ 68 ปี และมีกำหนดจากฌาปนกิจช่วงเย็นวันนี้ แต่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายนายได้เฝ้าระวังในจุดเกิดเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เพลิงลุกลามขึ้นมาอีกรอบ

 

ด้านพระปลัดอคปญโญ รองเจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว เจ้าคณะตำบลสนามคลี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีพระลูกวัดบาดเจ็บ 2 รูป ซึ่งเป็นพระที่นอนเฝ้าศาลาการเปรียญชั้นบนได้กระโดดลงมา หลังสะดุ้งตื่นเพราะได้กลิ่นควันไฟอย่างรุนแรง มีบาดแผลถูกสังกะสีบาดตามร่างกาย ขณะนี้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอาการปลอดภัยแล้ว

ด้าน นายบุญญกร ภูมิดี กำนัน ตำบลบางกระทุ่ม กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุจึงรีบมาดูแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ แต่เนื่องจากศาลาการเปรียญทำด้วยไม้สักทั้งหลังจึงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเพียง 15 นาที ก็ไหม้ลุกลามวอดเสียหายทั้งหมด ขณะนี้ชาวบ้านทุกคนต่างรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะสร้างมาจากจิตศรัทธาและเงินบริจาคของญาติโยมทุกคน ศาลาไม้สักขนาดใหญ่ ใช้เวลาสร้างหลายปีแต่เพลิงกับลุกไหม้เสียหายในเวลาเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้น วัดห้วยแก้วเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาว อ.บางกระทุ่ม ทุกหมู่บ้านต่างเคยมาทำบุญกันที่วัดแห่งนี้ ส่วนแนวทางการบูรณะซ่อมแซมจะได้ปรึกษาหารือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง โดยได้รับรายงานจากนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก ลงพื้นที่และพร้อมนำเครื่องจักรกลปรับสภาพพื้นที่ของวัดห้วยแก้วต่อไป

สำหรับ วัดห้วยแก้ว อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เป็นวัดเก่าแก่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2466 ประชาชนร่วมใจกันจัดสร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลัง วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 จุดเด่นของวัดห้วยแก้ว คือ ศาลาการเปรียญไม้สักทรงไทย 2 ชั้น (หลังที่เพลิงไหม้) สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2551 บานประตูหน้าต่างแกะสลักเทพเจ้าต่างๆ มีพระประธานบนศาลาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้ประดู่ ขนาดหน้าตัก 19 เมตร และแกะสลักจากไม้สักทอง ขนาดหน้าตักกว้าง 1.5 เมตร ภายในศาลาแกะสลักด้วยลวดลายที่มีความสวยงามวิจิตรอลังการเป็นอย่างมาก คาดว่าเป็นศาลาไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย.

////////////

แสดงความคิดเห็น