เปิดตัว “ธวัชชัย กันนะพันธุ์” ช่วยหาเสียง เปรมฤดี ผลักดันให้นั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกอีกสมัย

วันที่ 16 มีนาคม 68 ที่สำนักงานคณะลูกนเรศวร อ.เมืองพิษณุโลก นายธวัชชัย กันนะพันธุ์ อดีตนายก อบจ.พิษณุโลก หัวหน้าคณะหลักเมือง แถลงเปิดตัวเป็นผู้ช่วยหาเสียง ช่วย  นางเปรมฤดี  ชามพูนท หัวหน้าคณะลูกนเรศวร อดีตนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เพื่อผลักดันให้นั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก บริหารเทศบาลนครพิษณุโลกต่ออีกสมัย

นายธวัชชัย กันนะพันธุ์  หัวหน้าคณะหลักเมือง กล่าวว่า  วันนี้ตั้งใจมาร่วมมือ กับอดีตนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ซึ่งตามข้อเท็จจริงพี่น้องประชาชนอาจมีข้อสงสัยว่า มาได้อย่างไร  แต่จากการที่ได้มาฟังวิสัยทัศน์ ทั้ง 4 ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ที่จัดโดยหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก เมื่อค่ำวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา คิดว่าผู้มีความพร้อมเดินหน้าด้านการพัฒนาเมืองมากที่สุด คือ “เปรมฤดี”  จึงตัดสินใจมาสนับสนุน ซึ่งอาจจะมีคนสงสัยว่าอดีตที่ผ่านมา เปรมฤดี จากคณะลูกนเรศวร กับตนจากคณะหลักเมือง เมื่อปี 2538 ต่างคนต่างทำการเมือง ผมได้เป็นนายก อบจ.พิษณุโลก ส่วนเปรมฤดี เป็นนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก  อะไรที่ทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน ก็คิดว่าจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้การเมืองสมบูรณ์ที่สุด โดยการมาเป็นผู้ช่วยหาเสียง จะทำอย่างเต็มที่ เชื่อมั่นว่าประชาชนในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก จะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้กลับมาเป็นนายกเทศมนตรีอีกครั้ง เพราะว่า จะสามารถทำงานได้ทันทีไม่ต้องต่อยอด หรือทำอะไรเพิ่ม อนาคตพิษณุโลกไม่ใช่เพียงแค่ เป็นเทศบาลนครพิษณุโลก  แต่จะเป็น เทศบาลมหานคร ก็เป็นได้

ด้านนางเปรมฤดี ชามพูนท หัวหน้าคณะลูกนเรศวร  ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เบอร์ 3 กล่าวว่า การที่ ธวัชชัย กันนะพันธุ์ เข้ามาช่วยในเรื่องของการหาเสียงครั้งนี้ เพราะเชื่อมั่นในการพัฒนาบ้านเมือง เชื่อในความสามารถ เชื่อในอุดมการณ์และเป้าหมายในการพัฒนาเมือง  เพราะที่ผ่านมาเรามีการประสานการทำงานร่วมกันตลอด  แม้บางครั้งความคิดเห็นอาจไม่ตรงกัน   แต่ในความคิดเห็นทางการเมืองเราตรงกัน คือเราต้องการพัฒนาเมืองพิษณุโลก มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาบ้านเมือง จริงๆ ดีใจที่ท่านหวนกลับมาสู่วงการนี้อีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าท่านก็ยังห่วงบ้านเมือง จึงมาช่วยกันขับเคลื่อนเมืองพิษณุโลกให้ประสบความสำเร็จ

หัวหน้าคณะลูกนเรศวร กล่าวอีกว่า  จากกันที่ได้ดีเบสเมื่อคืนที่ผ่านมา  ได้เห็นความชัดเจนในแนวทาง  คงไม่เปลี่ยนวิธีการการทำงานเพราะการทำงานของเรา ศึกษาจากปัญหา มีข้อมูลทำงานอย่างมืออาชีพ มีการประสานกับหน่วยงานต่างๆ ถึงภาคประชาสังคม   ส่วนที่ผู้สมัครบางคน บอกว่าประชากรในเขตเทศบาลหายไปนั้น หายไปไหน บางคนก็คิดว่าเมืองไม่ดี คนเลยหายไป  แต่จริงๆแล้ว เมืองพิษณุโลกเรามีพื้นที่ 18 กว่าตร.กม. พื้นที่เราน้อย การเติบโตของเมืองขยายออกรอบข้าง ทุนขนาดใหญ่ต่างๆ มาลงรอบพื้นที่เทศบาลนครพิษณุโลกหมด เพราะเมืองมีปัญหาติดทางรถไฟ ธนารักษ์  ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  แม่น้ำน่าน ทำให้โครงการขนาด 100-200 ล้านบาทเปิดติดเขตเมือง   สังคมเปลี่ยนไป วิถีชีวิตเปลี่ยนไป   เมืองเราดูคึกคัก ดูมีชีวิตชีวา แต่เกิดจากประชากรแฝงมาทำงานตอนเช้าแล้วก็กลับไป ทำให้เทศบาลนครพิษณุโลกเราเหมือนคึกคัก ประชากรเลยหายไปลักษณะแบบนี้ เราไม่อยากให้ประชากรเราหายไปครัวเรือนเรามี 37,500 ครัวเรือน อีก 18,000 ครัวเรือนไม่ได้หายไป เป็นประชากรแฝง  ทำอย่างไรที่จะพลิกฟื้นให้ทรัพยากรที่มีเพิ่มมูลค่า ให้คนได้อยู่อาศัยและทำอย่างไรไม่อยากให้คนหายไปจากบ้าน ก็มีแนวคิดทำเศรษฐกิจ การค้าที่มันซบเซา ดึงลูกหลานเรากลับมาทำธุรกิจ เข้ามาทำการค้า ก็จะทำให้เกิดแรงงาน ให้ลูกหลานเรากลับมาทำงานที่บ้านเกิด เป้าหมายเราทำอย่างนี้  ส่วนโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสิ่งแวดล้อมคุณภาพชีวิตเราเป็นสมาชิกด้วย มาช่วยกันบริหารต่างๆ ทำครบทั้งหมด ไม่ใช่ว่าเราจะต้องมากังวลเรื่องนั้นแต่เรามากังวลเรื่องสภาพของเมืองมากกว่า ฟังจากผู้สมัครเมื่อวานที่พูดส่วนใหญ่  หน้าที่ที่เทศบาลทำมากกว่า การดูแลสุขภาพเป็นงานประจำที่เราทำแต่เป้าหมายการขับเคลื่อนเราได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ของเราไว้อยู่แล้วเป็นเมืองยุทธศาสตร์ เมืองสร้างสรรค์ ที่เราจะทำให้เมืองของเรา มีโครงการรองรับทั้งหมด เป้าหมาย คือการขับเคลื่อน ที่เขาพูดมาทั้งการแก้ไขปัญหาประปา ขยะ ซึ่งเราได้ทำไว้อยู่แล้ว วิสัยทัศน์ในการพัฒนาเมือง เราก็ยังทำอยู่ก็คือ 3 นคร คือนครน่าอยู่ นครน่าเที่ยว นครน่าลงทุน

หลังจากแถลงการณ์เปิดตัวนายธวัชชัย กันนะพันธุ์ แล้ว นางเปรมฤดี ชามพูนท หัวหน้าคณะลูกนเรศวร ได้สวมเสื้อของคณะลูกนเรศวร ให้กับนายธวัชชัย กันนะพันธุ์ พร้อมร่วมกันจับมือแสดงถึงเดินหน้าช่วยเหลือทางการเมืองต่อไป

 

//////

 

แสดงความคิดเห็น