โค่นสวนยางพารา บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง

พิษณุโลก นายทุนไม่รื้อ ป่าไม้รื้อเองก็ได้ หลังตรวจยึดปี 58 ไม่มีผู้กระทำความผิด สั่งให้ผู้กระทำผิดออกจากป่า รื้อถอนต้นยางพา ซึ่งมีผลผลิตน้ำยางพารา ออกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขากระยาง อ.นครไทย หากคดีสิ้นสุด ตำรวจหาผู้กระทำความผิดได้ อาจเจอถูกเรียกเก็บบิลย้อนหลัง ค่าจนท.รัฐร่วมกันตัดโค่นต้นยางพารา ประเมินค่าแรงรื้อถอนเกือบแสนบาท
วันนี้ 25 สิงหาคม 66 นายวิทยา ณวิพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ส่งการให้นายวิชาญ ขันธ์แก้ว ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายสำรวย ชมบุญ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก 1, นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก 2, นายไชยวัฒน์ หล่อฐานนท์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พิษณุโลก 1, นายวิวัฒน์ อินแปง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้พิษณุโลก 2, นายหน่อย ภู่น้อย หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า พล.5 (ซุ้มขี้เหล็ก) ดำเนินการบังคับใช้ มาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ดำเนินการรื้อถอนพืชผลอาสินและสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่รวมจำนวน 80-2-32 ไร่ บริเวณพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง ตำบลบ้านแยง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ทั้งนี้มีนายสราวุฒิ เมนขุนทด ปลัดอำเภอนครไทย, ผู้ช่วยหัวหน้าสวนป่าน้ำตาก องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้, นายสัญญา พวงทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลบ้านแยง เข้าร่วมตัดโค่นต้นยางพารา รื้อถอน พืชผลอาสิน
หลังจากเจ้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ได้ตรวจยึด ทำบันทึกคดีเมื่อปี 58 ส่งสภ.นครไทย แต่จนท.ตำรวจยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ ปรากฏว่า ระยะเวลาที่กำหนดได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้กระทำไม่ดำเนินการรื้อถอน ทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้รื้อถอนพืชผลอาสิน
ตามคำสั่งที่ 378/2562 ให้ผู้กระทำผิดออกจากป่าสงวนแห่งชาติ รื้อถอน สิ่งปลูกสร้างและพืชผลอาสินออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขากระยาง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สั่ง ณ วันที่ 9 ตุลาคม2562 สั่งให้ผู้กระทำผิดผู้บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ดำเนินการรื้อถอนต้นยางพารา โดยทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพโล่งเตียน ปราศจากสิ่งปลูกสร้าง และพืชผลอาสิน เพื่อรอการฟื้นฟูให้กลับสภาพเป็นป่าต่อไป
ที่ผ่านมาให้รื้อถอนให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน 62 และมีคำสั่งให้ผู้กระทำผิดออกจากป่าสงวนแห่งชาติ หากผู้กระทำผิด ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด จะต้องรับผิดชอบชดใช้ หรือออกค่าใช้จ่ายเพื่อการนั้นทั้งหมด พร้อมเงินเพิ่มอีกร้อยละ 25 ต่อปี ของค่าใช้จ่าย และมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 39/1 ฐานขัดคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งสั่งตามมาตรา 25(1) หรือ (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งจำทั้งปรับและยังต้องระวางโทษปรับอีกไม่เกิน วันละ 5,000 บาท
นายวิชาญ ขันธ์แก้ว ผอ.ส่วนป้องกันฯ สจป.4สาขาพิษณุโลก กล่าวว่า แปลงตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่า 23 มิถุนายน 2558 ป่าเขากระยาง พื้นตรวจยึด 693-2-63 ไร่ มีผู้มาแสดงสิทธิ ครอบเจ้าของพื้นที่ 20 ราย รวม 460-3-58ไร่
ขณะที่ยังมีแปลงปลูก ยางพาราข้างเคียงอีกจำนวน 5 แปลงพื้นที่รวม 80-2-32 ไร่ ไม่มีผู้ใดมาแสดงตัว ตนในฐานะเป็นเจ้าพนักงาน สจป.4 พิษณุโลก จึงเสนอ นายอำเภอนครไทย ดำเนินการบังคับให้ ม.25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ รื้อถอนตัดฟันต้นยางพารา ในพื้น 5 แปลงดังกล่าว ตามอำสั่งอำเภอนครไทยพร้อมได้รับงบประมาณจากกรมป่าไม้ ให้รื้อถอน ตัดต้นยางพารา
หากคดีสิ้นสุด ตำรวจหาผู้กระทำความผิดได้ ผู้ต้องหาอาจเจอถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายย้อนหลัง เป็นค่าดำเนินการที่จนท.รัฐร่วมกันตัดโค่นต้นยางพารา ประเมินค่าแรงรื้อถอนเบื้องต้นเกือบแสนบาท

แสดงความคิดเห็น