ชาวบ้านกว่าพันคน ทวงคืบหน้าคดีธนาคารหมู่บ้านโกงเงิน คดีไม่คืบมากว่า 2 ปี ที่ สภ.นครไทย

วันนี้ ( 18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรนครไทย จ.พิษณุโลก ชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ใน อ.นครไทย จำนวนกว่า  1 พันคน ที่เป็นสมาชิกโครงการธนาคารหมู่บ้าน ตามพระราชดำริ เดินทางมาที่โรงพักนครไทย เพื่อทวงถามความคืบหน้าของคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.นครไทย หลังจากฝากเงินกับธนาคารหมู่บ้าน แล้ว ไม่สามารถเบิกได้ ทำให้ชาวบ้านที่ฝากเงินไว้กว่า ต้องสูญเสียเงินกว่า 200 ล้านบาท บางคนเสียเงินที่ฝากไว้ 1-3 ล้านบาท ต้องจมกับธนาคารหมู่บ้าน   โดยชาวบ้านส่วนใหญ่เริ่มมีการฝากเงินกับทางธนาคารมาหลายปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาสามารถถอนเงินใช้ได้ปกติ แต่มาเมื่อปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยธนาคารให้เหตุผลว่า ” ไม่มี ” ทั้งๆที่มีการฝากเงินอยู่ตลอด โดยชาวบ้านมีหลักฐาน เป็นสมุดบัญชีที่ทางธนาคารออกให้ และมีหลักฐานสลิปการโอนฝาก (บางส่วน) โดยตอนนี้ชาวบ้านผู้เสียหายทั้งหมดกำลังรวบรวมรายชื่อ และ ยอดเงินที่ชัดเจนทั้งหมดอยู่ ซึ่งมี มูลค่ารวมแล้วประมาณ ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ดำเนินการแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กับทางสถานีตำรวจ สภ.นครไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ

โดยล่าสุด พ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผกก.สภ.นครไทย พร้อมด้วยนายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ส.ส.เขต 5  พรรคก้าวไกล และนายณัฐวุฒิ ชัยสิทธิ์ ปลัดอำเภอนครไทย ได้ออกมารับเรื่อง พร้อมกับชี้แจงให้กับชาวบ้าน โดยพ.ต.อ.สมบูรณ์ สีแดง ผกก.สภ.นครไทย บอกว่า  จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ธนาคารหมู่บ้าน ตามพระราชดำริ ในพื้นที่ อ.นครไทย ทั้งอำเภอมีจำนวน 10 สาขาย่อยต่างๆ โดยที่ผ่านมาทางธนาคารจะนำเงินฝากของประชาชน นำไปให้สมาชิกกู้ โดยกู้แต่ละครั้งก็มีบุคคลค้ำประกัน หลักทรัพย์ค้ำประกันบ้าง ซึ่งต้องกล่าวว่าการนำเอาโฉนดที่ดินมาค้ำกับประกันกับธนาคารหมู่บ้าน ตามพระราชดำริ โดยไม่ผ่านสำนักงานที่ดิน ถือว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ในปี 64 ปรากฏว่ามีสมาชิกไปขอเงินคืนที่ฝากกับธนาคารไว้ จำนวน 4 ธนาคาร คือ ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ เครือข่ายสาขาบ้านนาบัว ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ เครือข่ายสาขาบ้านน้ำทวน ธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ เครือข่ายสาขาบ้านน้ำลอม และธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดำริ เครือข่ายสาขาบ้านโคกเนินทอง ก็ไม่มีเงินคืนให้ โดยอ้างว่าปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกไปแล้ว และสมาชิกก็ไม่มีเงินคืนให้ ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้ทางธนาคาร ก็แจ้งว่า ปัญหาดังกล่าวจะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยกันฟื้นฟูกิจการของธนาคารกลับมา โดยมีแผนอยู่แล้ว

ในส่วนของการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้นขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการธนาคารทั้ง  4 แห่งแล้ว ในความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชนและกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน การดำเนินคดีทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสำนวนไปกับอัยการแล้วและนอกจากสำนวนไปแล้ว ทางตำรวจ สภ.นครไทย ได้ทำหนังสือไปถึงคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการฟ้องเงิน หรือ ปปง. เพราะว่าการฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายถือว่าเป็นความผิดมูลฐาน ตามกฎหมายต้องส่งให้ ปปง.ตรวจสอบว่าเส้นทางการเงินไปถึงใครอย่างไร

ด้านนายณัฐวุฒิ ชัยสิทธิ์ ปลัดอำเภอนครไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้วและได้รายงานไปกระทรวงมหาดไทย ด้วย พร้อมกับให้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเพื่อมาทำการตรวจสอบข้อเท็จ โดยล่าสุดธนาคารหมู่บ้าน ตามแนวพระราชดำริ มีจำนวน 8 ธนาคาร มีสมาชิกทั้งหมด 8 พันกว่าบัญชี มีเงินหุ้น และเงินฝาก จำนวน 461 ล้านกว่าบาท เงินสดแทบไม่มีเหลือเลย มีบางธนาคารเหลือเพียงหลักพันบาท บางธนาคารก็มี 2 ล้านบาท นอกจากนั้นก็ไม่ทราบว่าเงินหายไปไหน กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งล่าสุดทางอำเภอได้หนังสือมาจากจังหวัด ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งต้องขอข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขอให้ชาวบ้านลงชื่อข้อมูล เบอร์โทรศัพท์ไว้ให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อติดต่อให้มาแจ้งความอีกครั้งเนื่องจากไม่สามารถรับแจ้งความทั้งหมดกว่าพันคนได้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครไทยจะประสานกับตำรวจภูธรภาค 6 มาร่วมรับแจ้งความดำเนินคดีด้วย เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทำให้ชาวที่ลงทะเบียนเสร็จแล้ว ก็เริ่มทยอยกลับในที่สุด

////////////

 

แสดงความคิดเห็น